Capp Range คืออะไร?

Capp Range คืออะไร?
ตามที่เราได้ศึกษาในบทเรียนที่ผ่านๆมาแล้ว Range ก็คือ ชุด หรือ กลุ่มของไพ่ไพ่ ที่ประกอบกันขึ้นตามความน่าจะเป็น ตามสถานการณ์นั้น ๆCapp Range ก็คือ Range ตามนิยามด้านบน ที่ไม่ได้ประกอบไปด้วย ไพ่ที่แข็งแกร่งอยู่ในนั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น ใน Range กลุ่มนั้นไม่มี Over pair ,Set ,Straight ,Flush ฯลฯ
และเช่นเคย เรามาดูตัวอย่างจากสถานการณ์จริงเพื่อให้เห็นภาพกัน
โป๊กเกอร์ออนไลน์ โต๊ะ 6 คน ห้อง 1/2$ มีชิพคนละ 200$
คุณอยู่ที่ตำแหน่ง Big blind ถือไพ่
ผู้เล่นที่ตำแหน่ง MP raise 5$ หมอบหมด จนถึงคุณ
Flop เปิดออกมา 9♠5♦3♠
คุณ check ,MP check
เรามาดูรายละเอียดกัน
ที่รอบ Preflop ผู้เล่นที่ตำแหน่ง MP เป็น Preflop aggressor
Range ของเขา จะมีไพ่อยู่ดังภาพ
แต่เมื่อ เขาไม่ C-bet แต่เลือกcheck-back กลับมา เราจึงสามารถ คาดเดาได้ว่าใน Range ของเขาไม่น่าจะมี Hand อะไรที่ แข็งแกร่งมากกว่า Top-pair เมื่อเราทราบดังนั้นเราจึงนำไพ่ที่แข็งแกร่งของเขาออกจาก Range
เมื่อเราพิจารณาจากภาพแล้วสามารถ กล่าวได้ว่า Capp Range ของ MP นั้นอยู่ที่ Top-pair นั่นเอง
ทำไม Capp Range จึงมีความสำคัญ ?
เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมี Range ที่ Capp ดังนั้นแผนการเล่นของเขาก็มักเลือกที่จะไม่เล่น Aggressive ทำให้เราสามารถเล่นได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นคุณยังสามารถ เลือกbet ออกไปด้วย Value Hand ที่ไม่ได้ใหญ่มาก เช่น คู่กลาง เพื่อทำกำไรได้ จนถึงการ bet ใหญ่ๆ (over-bet) เพื่อกดดัน ฝ่ายตรงข้าม ได้โดยง่ายสำหรับการ bet ใหญ่ (over-bet) ในสถานการณ์นี้ มีเหตุผล ที่อธิบายเล็กน้อย
- เพื่อจะทำกำไรให้สูงสุดในกรณีที่คุณถือไพ่ที่แข็งแกร่ง Value Hand
- เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะ bluff ให้ฝ่ายตรงข้ามหมอบเพราะ ราคาที่คุณ bet ออกไปนั้นทำให้ ไม่คุ้มค่าที่เขาจะ Call ตามวิธีการคิด pot-odds
โดยที่คุณต้องมีการเล่นโดย Balance Hand ที่ดีของคุณ กับ Bluff ให้สมดุลด้วยนะ เพราะถ้าคุณแทบไม่มีการ Bluff ด้วย Over pot bet เลย ก็ยากที่เขาจะ Call มามอบชิพให้คุณ ด้วย Hand กลางๆ ประเภท bluff-catchers ของเขา
วิธีที่จะป้องกันสถานการณ์นี้ไม่ให้เกิดขึ้นกับเรา ?
แน่นอน ว่าคุณรู้ว่า Range Capp เป็นอย่างไรฝ่ายตรงข้ามก็รู้ (ถ้าไม่รู้ก็เป็นข้อดี) เมื่อเขาโจมตี ไม่ว่าจะเป็นการ Bluff หรือ Value ก็ตาม คุณคงต้องเลือก Call แม้ว่าจะต้องเสียชิพไปบ้างเมื่อเรารู้ว่า Capp Range มีข้อเสียอย่างไรบ้าง คุณก็ควรต้องแก้ไขไม่ให้ Range ของคุณถูกโจมตีได้ โดยคุณต้อง มี Value hands มา check-back เพื่อ Balance Capp Range ให้การเล่นกับคุณนั้นยากลำบากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
- เมื่อไพ่ที่ Flop 9♠ 5♦ 3♠ คุณก็ควรจะ checks Over pair AA (อย่า check KK ,QQ) บ้าง จนถึงไพ่ Top-pair 9x รวมถึงไพ่Draw ต่างๆ ที่สามารถ completes ที่ Turn ได้ รอให้ เขา Probe ที่ Turn แล้วสามารถทำกำไรได้
คุณควรระวังไม่เลือก Action ที่ทำให้ Range ของคุณ Capp (check-back flop หลังจากเป็น Aggressor) เมื่อคุณได้ศึกษาถึงปัญหาและวิธีการแก้ปัญหานั้นแล้ว ไม่ว่า Capp Range จะเกิดกับคุณหรือคู่ต่อสู้ก็ตาม คุณจะสามารถ รับมือ และ แก้ไขสถานการณ์ และเลือกใช้ กลยุทธ์ที่ถูกต้องได้เสมอ