Rangeคือ อะไร?

เพราะ โป๊กเกอร์ เป็นเกมที่มีข้อมูลไม่ครบถ้วน และเราแทบจะไม่มีทางรู้เลยว่าฝ่ายตรงข้ามถือไพ่สองใบคืออะไร? เราจึงควรสร้าง หรือ กำหนดข้อมูลไพ่ของฝ่ายตรงข้ามเป็น
กลุ่มไพ่ ,ความเป็นไปได้ที่เขาจะมีเอาไพ่แบบไหนมาเล่น !  แต่ที่นิยมและสื่อความหมายได้ดีที่สุด เราจะเรียกว่า Range (เร้นจ์)
 
ดังนั้น Range ก็คือ ความเป็นไปได้ ทั้งหมดของไพ่ ที่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามสามารถมีได้ ในรอบ Preflop และ Postflop ซึ่งจากที่เราเรียนรู้ ในบทความ โป๊กเกอร์ ที่ทาง pokerth ได้นำมาเสนอแล้วนั้น Range จะกว้างหรือ แคบ ขึ้นอยู่กับประเภทของผู้เล่น และ ตำแหน่งที่เขาเล่นอยู่  โดยผู้เล่นที่ Tight  นั้นก็จะเริ่มเล่น starting hand ที่น้อยหรือแคบกว่าผู้เล่นที่ Loose และ ผู้เล่นที่ตำแหน่ง Early จะมี range ที่แคบกว่าผู้เล่นที่อยู่ที่ Late position
         เรามักจะเริ่มต้นด้วยการสร้าง Range ช่วง Preflopของฝ่ายตรงข้าม ตามประเภทของผู้เล่นและตำแหน่งของเขา และ ปรับให้เกิดความน่าจะเป็นจาก Action ที่เขาแสดงต่างๆ เพื่อให้เกิดความแม่นยำ ดังที่จะอธิบายต่อไป
 
ซึ่งในการศึกษา และ อธิบายในเรื่อง Range เราแบ่งดังนี้

Range Matrix

เป็นการมอง Range โดยการใช้ภาพมาประกอบ   
Range Matrix จะทำให้เราสามารถมอง และ จดจำได้ดีขึ้นว่า Range นั้นประกอบด้วยไพ่อะไรบ้าง


ซึ่งจากรูป ขนาด 13 ช่อง x 13 ช่องนี้ เราเรียกว่า Range Matrix เราจะเห็นว่าความเป็นไปได้ทั้งหมด ก็คือ 13x13 ได้ทั้งหมด 169 รูปแบบ

โดยมีไพ่ Pocket Pair (ไพ่คู่) ,ไพ่สี (Suite) และ ไพ่สีไม่เหมือนกัน (Off suite)
 

Percentage form

เป็นการอธิบาย Range ด้วยการบอกเป็น เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเริ่มต้นจากด้านบนซ้าย ที่ AA ที่ 0% แล้วเลือกมาเรื่อยๆ จนสุดที่ 22 คือ 100%

จากภาพ เราเลือก ไพ่มาเล่น 34.2 % ของไพ่ทั้งหมด
ซึ่งเปอร์เซ็นต์ตรงนี้บอกถึงอะไร?

จากที่เราเคยศึกษามาในหัวข้อ “ประเภทของผู้เล่นโป๊กเกอร์ และ ค่าสถิติต่างๆ” ตรงนี้ จะมีค่า ที่สำคัญที่จะนำมาใช้คือ VPIP  เช่น ถ้าเราเจอผู้เล่นที่มี VPIP =34%  ภาพด้านบนก็จะเป็น Range หรือความเป็นไปได้ที่ผู้เล่นคนนั้นจะนำไพ่ตามภาพ ไปใช้ในการเล่นของเขา พอจะมองออกแล้วใช่ไหมคะ

เพื่อให้การจดจำ Range ได้ง่ายขึ้น ให้คุณจดจำ โดยประมาณค่า Range เป็น เปอร์เซ็นต์ ไว้สัก 5 ค่า แล้วจำไว้ว่า แต่ละค่านั้นมีไพ่อะไรอยู่บ้าง

Range 9% Preflop

ผู้เล่น Tight , ผู้เล่นที่ตำแหน่ง Early Position บนโต๊ะ 9 คน มักจะเปิดด้วยไพ่ประมาณนี้  แต่บนโต๊ะ 6 คน คงไม่มีใครเล่น Tight ขนาดนี้

Range 15% Preflop

44+ /76s+/Ato+/Kjo+/Qjo/A5s/A7s+/KJs+/QJs
ผู้เล่น Tight , ผู้เล่นที่ตำแหน่ง Early Position บนโต๊ะ 6 คน มักจะเปิดด้วยไพ่ประมาณนี้
 

Range 25% Preflop

22+,A7s+,K9s+,Q9s+,J9s+,T8s+,97s+,86s+,75s+,64s+,54s,A9o+,KTo+,QTo+,JTo,T9o

ผู้เล่น ที่ตำแหน่ง CO , ผู้เล่นประเภท Loose  มักจะเปิดด้วยไพ่ประมาณนี้ 
 

 

Range 35% Preflop

22+,A2s+,K8s+,Q8s+,J8s+,T7s+,97s+,86s+,75s+,64s+,54s,43s,A8o+,A5o-A2o,K9o+,Q9o+,J9o+,T9o
 
ผู้เล่น Loose ที่ชอบขโมยบลายที่ตำแหน่ง CO, ผู้เล่นที่ตำแหน่ง BTN เล่นไพ่ใน Range นี้ ,ผู้เล่น Tight ที่ตำแหน่ง SB

Range 50% Preflop

22+,A2s+,K2s+,Q7s+,J7s+,T7s+,96s+,86s+,75s+,64s+,53s+,43s,A2o+,K5o+,Q8o+,J8o+,T8o+,98o,87o,76o,65o
 
ผู้เล่นที่ตำแหน่ง SB ใช้ขโมย Blind หรือ ผุ้เล่น Loose ใช้เล่นที่ตำแหน่ง Botton ด้วยเช่นกัน
 
คุณได้เห็นภาพเคราๆ ของ Range เทียบเป็น เปอร์เซ็นต์เพื่อไว้ใช้จดจำ ไปปรับใช้กับ VPIP ของผู้เล่นอื่นแล้ว
 
ดังนั้นเมื่อคุณทราบหลักการเบื้องต้นแล้ว ก็ถึงเวลานำมาปรับใช้ในการเล่นจริงกัน
 
จากที่เราได้เรียนรู้ข้างต้น Range ของไพ่ ในรอบ Preflop สัมพันธ์ กับ VPIP ของผู้เล่นนั้นๆ มาถึงตรงนี้ pokerth ขอแนะนำ Range ที่คุณสามารถ นำไปใช้ในรอบ Preflop ในกรณีที่เราเป็นคนแรกที่เล่น ในรอบ Preflop สำหรับโต๊ะ 6max โดยนำมาจาก Preflop Range chart ของคุณ Jonathan Little จาก Pokercoaching

 
ที่ตำแหน่ง UTG (หรือ LJ ) บนโต๊ะ 6 max (6 คน) คุณสามารถ RFI (เริ่มเล่นด้วยการ Raise เข้าไปเป็นคนแรก) ด้วย 18.3% Preflop
 

 
ที่ตำแหน่ง HJ บนโต๊ะ 6 max (6 คน) คุณสามารถ RFI (เริ่มเล่นด้วยการ Raise เข้าไปเป็นคนแรก) ด้วย 21.3% Preflop

 
 
ที่ตำแหน่ง CO บนโต๊ะ 6 max (6 คน) คุณสามารถ RFI (เริ่มเล่นด้วยการ Raise เข้าไปเป็นคนแรก) ด้วยไพ่ 27% VPIP ในรอบPreflop

 
ที่ตำแหน่ง  BTN บนโต๊ะ 6 max (6 คน) คุณสามารถ RFI (เริ่มเล่นด้วยการ Raise เข้าไปเป็นคนแรก) ด้วยไพ่ 51.1% VPIP ในรอบPreflop
 

 
ตำแหน่ง  SB บนโต๊ะ 6 max (6 คน) คุณสามารถ RFI (เริ่มเล่นด้วยการ Raise เข้าไปเป็นคนแรก) ด้วยไพ่ 58.7% VPIP ในรอบPreflop
 
สรุป
การกำหนดไพ่ของคู่ต่อสู้แบบเฉพาะเจาะจงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เราควรฝึกหัดมองให้เป็น Range ดังนั้นในการเล่นแต่ครั้ง คุณควรจะกำหนด Rangeไพ่ให้คู่ต่อสู้ และ ทุกครั้งที่มีการ Action ไม่ว่าจะเป็น Call หรือ Raise คุณควรนำ Action นั้นมาปรับขนาดของ Range ให้สัมพันธ์ กับ Action นั้นๆ ด้วย
ซึ่งในแต่ละรอบ การเล่น ความน่าจะเป็นที่ ฝ่ายตรงข้ามจะถือไพ่ อะไรก็จะแคบลงเรื่อยๆ จาก Action นั้นๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว อย่างสมเหตุสมผ

สำหรับบทความในเรื่อง Range ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ เนื่องจากเนื้อหาในบทนี้ครอบคลุมในเรื่องการเลือกไพ่ใน Range เข้าไปเล่นในรอบ Preflop ในตำแหน่งนั้นๆ แต่ท่านยังสามารถติดตาม ความรู้ วิธีการเล่น โป๊กเกอร์ ในเรื่อง Range ที่จะนำมาเสนอในโอกาสต่อๆไป ที่ละเอียด และยังมีความรู้อีกมากในเรื่องนี้ ทาง pokerth จะนำมา นำเสนอให้กับทุกท่านอีกในโอกาสหน้า